1/19/2558

จากเงิน 4 ด้าน สู่ รายได้ 3 level


รายได้ 3 level สำหรับผมเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่เรื่องรายได้ ซึ่ง(บางคน) ที่ไม่ใช่นักลงทุน อาจยังไม่ทราบ แต่มันมีมานานมากแล้ว  เราคงไม่ผิดหรอกครับ(เพราะผมก็เพิ่งทราบมาไม่นานเหมือนกัน) ในอนาคตทางเลือกในการลงทุนมีมากมายขึ้น รายได้จากเดิมมีสองฝั่ง คือ Active และ Passive Income ซึ่งมันก็ถูก แต่เหมือนจะมีอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถตอบคำถามในเรื่องที่ว่าทำไมเศรษฐีระดับโลกถึงรวยเอารวยเอา เขาเป็นนักลงทุนเช่นกัน แต่ทำไมรายได้เขาถึงได้มากมายมหาศาล ความสามารถส่วนตัวนั้นเป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนคำตอบอีกเรื่องหนึ่งนั่นคือเขาเข้าใจ Money Game!?

มีบางคนอาจเคยผ่านตาหรือได้ยินมาเรื่องเงินสี่ด้าน งานสี่มุมกันมาบ้างแล้ว เงินสี่ด้านมาจากหนังสือ พ่อรยสอนลูก โดย โรเบิร์ต คิโยซากิ โดยให้คอนเซปเกี่ยวกับรายได้ในโลกนี้ไว้สองฝั่ง ฝั่งแรก คือ ฝั่ง Active Income ใช้แรงและเวลาแลกกับเงิน และอีกด้านคือ Passive Income ใช้เงินทำงาน ใช้เงินต่อเงิน หรือใช้ระบบในองค์ ผลิตเครื่องมือสร้างเงินเรียกว่า Money Machine สนใจความรู้เรื่องเงิน 4 ด้าน ถามอากู๋(google) ซึ่งมีทั้งบทความและงานบรรยายต่างๆมากมาย ผู้ที่ต้องการหาความสำเร็จและออกจากงานประจำ(สนามแข่งหนู) ควรฟังและอ่านเกิน 1 รอบ ผมไม่เขียนเพราะมีคนเขียนเยอะแล้วครับ

แผนผังเงินสี่ด้าน 

รายได้ 3 level 
ส่วนตัวผม จริงๆมันก็เ หมือนส่วนขยายที่มากจากเงินสี่ด้าน โดยย่อให้เหลือ 2ฝั่ง และเพิ่มฝั่งที่ 3 เข้าไปนั่นเอง โดยเรื่องรายได้ 3 level ผมขออนุญาติถอดและสรุปมาจากรายการ กลยุทธ์ธุรกิจ กับ อ ธันยวัชร์ By AmarinTV วันนั้นรายการได้สัมภาษณ์คุณ ภาววิทย์ กลิ่นประทุม กูรูหุ้นรุ่นใหม่ ซึ่งผมก็ติดตามงานเขียนของเขามาสักพักเหมือนกัน ชายคนนี้ "ไม่ธรรมดาแน่นอน"

" เราจะรวยได้เท่าไหร่ อยู่ที่เรามีทักษะที่จะรวยได้เท่าไหร่ "

รายได้ระดับที่ 1 ขายเวลาแลกเงิน
เรียกง่ายๆครอบคลุมอาชีพ ลูกจ้างทั้งหมด ไม่เกี่ยวเรื่องรายได้มากหรือน้อย หากคุณยังต้องขายเวลาตัวเองเพื่อแลกเงิน ไม่ว่าคุณจะเป็น ดารา ผู้จัดการบริษัท หรือ แม้กระทั่งคนเข็นผัก ...คุณอยู่ level เดียวกัน โดย คุณ ภาววิทย์ให้ไอเดียร์ได้สะท้านทรวงว่า "เวลาทุกคนมีจำกัด เอาไปแลกเป็นเงินยังไงก็ไม่รวย"

รายได้ระดับที่ 2 การวางเงินให้มันทำงาน
สรุปความง่ายๆคือ การเปลี่ยนจากเงินตราที่เราใช้จ่ายกัน มาเป็นการถือ Asset หรือสินทรัพย์ เพื่อให้สินทรัพย์เหล่านั้น เพิ่มมูลค่าตามกาลเวลา หรือผลิตเงินตราให้กับเรา ซึ่งเราต้องเข้าใจเรื่อง Asset ก่อนว่าอะไรคือ Asset คุณ ภาววิทย์ให้ไอเดียร์ ไว้สามประการเกี่ยวกับคุณสมบัติของสิ่งที่เรียกว่า Asset ค่อนข้างครอบคลุม คือ 1. สิ่งนั้นมุนษย์ต้องการ 2.สิ่งนั้นต้องมีจำนวนจำกัด 3.สิ่งนั้นเอาเงินใส่ไว้ราคาต้องเพิ่ม 
(แต่ให้อยากฟังขยายความในคลิ๊ปด้วยเพื่อเพิ่มความชัดเจนให้มากขึ้นนะครับ)

รายได้ระดับที่ 3 เปลี่ยนไอเดียร์ให้เป็นเงิน
หลายๆคนอาจสงสัยว่าการเปลี่ยนไอเดียร์ให้เป็นเงินนั้น มันจะอยู่ในระดับ 3 ได้ยังไง? แต่ไอเดียร์ในที่นี้เป็นสเกลที่ใหญ่มากนะครับไม่ใช่ไอเดียร์ตลาดทั่วๆไป แต่เขาสร้างธุรกิจของตัวเองเข้าตลาดหลักทรัพย์ เริ่มเห็นคำตอบรำไรทันทีว่า  อย่างบิลเกตส์ มาร์คซักเกอร์เบิร์ค แจ็คหม่า เขาอยู่ในระดับไหน บุคคลประเภทนี้ เขาอยู่เหนือกว่า การลงทุนใน Asset ทั่วไป แต่เขาสร้างบริษัทป้อนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ โดยเขาเป็นเจ้าของ Asset ที่แท้จริง อย่าง CP หรือ Central  ก็อยู่ในระดับนี้ เพราะเมื่อเขานำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ได้ พร้อมระบบในการบริหารจัดการที่ดี มูลค่าของบริษัทของเขาจะทะยานข้ามไปอีกระดับชั่วข้ามคืน ส่วนหลักเกณฑ์ที่จะนำบริษัทเข้าหลักทรัพย์และเหตุผลที่มูลค่าเพิ่มขึ้นข้ามคืนนั้น ต้องไปติดตามกันนะครับ

ติดตามชมคลิปเต็มได้จากทาง AMARIN TV ด้านล่างครับ

1/4

2/4

3/4


4/4

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น