ปัจจุบันผมเห็นรายการโทรทัศน์ และหนังสือ ที่ว่าด้วยการทำตามฝันและความเชื่อมากมาย มีหัวหนังสือ และชื่อเรื่องดึงดูดให้หยิบจับ และซื้อไปครอบครอง หนังสือเหมือนเครื่องลับความคิด และเป็นมหามิตรของเราในเวลาเดียวกัน แต่หลายๆคนก็ชอบอ่านโดยเลือกจากชื่อเรื่องและหน้าปกแรงๆโดนๆ แบบที่ตรงกับความรู้สึกเรา หารู้ไม่ ว่าคุณอาจโดน มายาแห่ง Marketing เล่นงานเข้าให้แล้ว
การอ่านเป็นเรื่องที่ดี ในแง่การเรียนรู้ความคิดของผู้อื่น(ผู้เขียน) เป็นการพัฒนาตัวเองในด้านทักษะ และองค์ความรู้ ก่อนที่จะค้นพบวิถีและแนวคิดของเราตัวเอง เปรียบดั่งอาวุธที่พร้อมให้หยิบจับ ขึ้นมาใช้งานตามสถานการณ์ คนที่อ่านน้อยและมีทักษะความคิดที่ต่ำ ก็เปรียบเสมือนกล่องอาวุธที่ว่างเปล่า อาวุธเท่าที่มีบางอันก็ทื่อจนใช้การไม่ได้
ดังนั้นการฝึกคิดและการหาความรู้ใหม่ๆจากการพูดคุยกับผู้อื่น หรือการเลือกอ่านหนังสือ แนวพัฒนาตนเอง หนังสือ How To ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลับอาวุธของตัวเองให้คมอยุ่ตลอดเวลา
...แต่ก่อนที่คุณจะเลือกหนังสือหรือเริ่มอ่านหนังสือสักเล่ม คุณควรมีทักษะ Learn How To Learn เสียก่อน คือเรียนรู้วิธีที่จะเรียนรู้ ไม่ใช่เจออะไรก็เอามาประเคนใส่สมองไปเสียหมด แล้วสุดท้ายคุณก็จะโฟกัสชีวิตมั่วไปหมด เพราะอันนี้ฉันก็อ่านอันนั้นฉันก็อ่าน กลายเป็นคนติดอ่าน พอจะทำอะไรก็เล่มนั้นคนนั้นเขียนแบบนี้ อีกเล่มคนนี้เขียนแบบนั้น
สรุปคือมีแต่แบบเขา แล้วแบบเราล่ะ มันมีหรือป่าว? แผนธุรกิจ แผนชีวิตแบบเรา... "ยังไม่มี" ...
เพราะมัวแต่ไปเรียนรู้แต่แบบเขา... "เมื่อไหร่ที่เราทำอะไรโดยไม่มีแผน เราจะเข้าไปเป็นหนึ่งในแผนของคนอื่นทันที" นี่คือความจริงอันโหดร้ายของโลกทุนนิยมซึ่งเราไม่มีวันหนีพ้น หากยังไม่เข้าใจเรื่องนี้
เหรียญมันมีสองด้าน หนังสือก็มีแง่ของ Marketing เหมือนกันนะ
หนังสือแนวจิตวิทยา และการพัฒนาตัวเอง สมัยนี้มันก็ถูกบทบาทของการตลาดเพราะแน่นอนเขาทำมาขาย ไม่ใช่บทสวดมนต์ที่เขาพิมแจกฟรีๆกันนะครับ เมื่อมีแง่การขายก็ต้องมีคำว่าการตลาด เข้ามาเกี่ยวข้อง
ชื่อหนังสือแรงๆ หัวเรื่องแบบโดนๆ ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน หนังสือก็เหมือนเพื่อนสนิท มันก็ไม่ผิดถ้าเรารู้จักเลือก(บ้าง) หากเราวิเคราะห์และฉุกคิดสักนิด จะเห็นว่าหนังสือดีๆมีเยอะนะ แต่ในขณะที่หลายๆเล่มก็ออกมาแนวชักจูงเสียมากเกินราคา (ความเห็นส่วนตัวนะครับ)
ชื่อหนังสือแรงๆ หัวเรื่องแบบโดนๆ ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน หนังสือก็เหมือนเพื่อนสนิท มันก็ไม่ผิดถ้าเรารู้จักเลือก(บ้าง) หากเราวิเคราะห์และฉุกคิดสักนิด จะเห็นว่าหนังสือดีๆมีเยอะนะ แต่ในขณะที่หลายๆเล่มก็ออกมาแนวชักจูงเสียมากเกินราคา (ความเห็นส่วนตัวนะครับ)
ผมไม่มีเจตนาดิสเครดิตหนังสือเล่มใดนะครับ แต่ผมอยากให้วิธีคิดคนอ่านมากกว่า
ปัจจุบันเห็นชื่อหนังสือแล้วเสียววาบหลายๆเล่ม ประมาณว่า รวยง่ายๆด้วย MLM(ธุรกิจเครือข่าย) เล่นหุ้นรวยพันล้านคุณทำได้, วิธีเล่นหุ้นง่ายๆไม่เสี่ยง, รวยง่ายๆด้วยหุ้น VI ,อยากสำเร็จให้ลาออก อะไรทำนองนี้ มันคือภาพมายาของ Marketing ล้วนๆ
มันดึงดูดพวกมนุษย์เงินเดือนที่หวังอยากรวยเร็วๆ พวกย้ายที่ทำงานบ่อย อยู่ที่ไหนก็ไม่เคยได้นาน
คำคมๆพวกนี้ถูกกลั่นกรองมาโดยแผนการตลาดอย่างแยบยล ลองคิดดูสิครับ "เล่นหุ้น" คำนี้ก็บอกกลุ่มเป้าหมายแล้วครับ หากคุณจะลงทุนในหุ้นมีหรือครับไม่เสี่ยง หุ้นมันเล่นๆได้เหรอครับ? ไอ้ที่ใช้คำว่าเล่นน่ะผมเห็นหมดตัวไปหลายคนแล้ว อะไรที่มันง่ายๆ มันมีเหรอครับในโลกนี้น่ะ แบบนั้นก็ไม่มีคนจนแล้ว
บางเล่มให้ลาออก บ้าไปแล้ว ไม่วางแผนอะไรเลย ลาออกไปทื่อๆเลย มันจะรวยอย่างว่าได้หรือเจ๊งบ๊งดี?
คำคมๆพวกนี้ถูกกลั่นกรองมาโดยแผนการตลาดอย่างแยบยล ลองคิดดูสิครับ "เล่นหุ้น" คำนี้ก็บอกกลุ่มเป้าหมายแล้วครับ หากคุณจะลงทุนในหุ้นมีหรือครับไม่เสี่ยง หุ้นมันเล่นๆได้เหรอครับ? ไอ้ที่ใช้คำว่าเล่นน่ะผมเห็นหมดตัวไปหลายคนแล้ว อะไรที่มันง่ายๆ มันมีเหรอครับในโลกนี้น่ะ แบบนั้นก็ไม่มีคนจนแล้ว
บางเล่มให้ลาออก บ้าไปแล้ว ไม่วางแผนอะไรเลย ลาออกไปทื่อๆเลย มันจะรวยอย่างว่าได้หรือเจ๊งบ๊งดี?
ไอ้ที่ว่ารวยง่ายๆ รวยเร็วๆ ผมบอกเลยว่าความคิดนี้มันอันตรายโคตรๆ สุดท้ายคุณไปเจอการตลาดพวกนี้คอยดักจับคนที่มีความคิดรวยง่าย รวยเร็วอยู่แล้ว เรียบร้อยครับ โดนไปหนึ่งเล่ม แน่นอน แล้วพออ่านเสร็จกลับบ้านงง นั่งโพสเฟสบุ๊ค สบถชีวิตตามเดิม ไม่รู้ว่าเสียเงินไปแล้วได้อะไรกลับมาบ้าง
เพราะฉะนั้นการอ่านการเลือกหนังสือสักเล่มหรือหาเพื่อนดีๆสัดคน ดูเจตนาของผู้เขียนครับว่าเขามีใจอยากช่วยเหลือเราจริงหรือเปล่า เขาแนะนำแนวทางใด หัดใช้การฉุกคิดเยอะๆก่อนตัดสินใจ ฉุกคิดไม่ได้ใช้ความกลัวมาบล๊อคนะครับ แต่ใช้หลักเหตุผล มองโลกตามความเป็นจริงเสียบ้าง
นักเขียนก็สำคัญเขาออกเขียนหนังสืออกมาเพื่ออะไร? บางครั้งเขาแค่สร้างต้องการสร้าง portfolio
พวกออกมาเล่มเดียวแล้วเทงบสร้างกระแส เพื่อเอา BestSeller ก็มี เสร็จปุ๋บ ก็เอาคำนี้ไปหากินในอาชีพเขาต่อ
หนังสือดีๆแค่เล่มเดียวก็เปลี่ยนชีวิตคนคนนึงได้แล้ว พอคุณเจอหนังสือที่เป็นของแท้ คุณก็จะรู้จักว่าอันไหนของเทียม (เหมือนเจอเพื่อนแท้น่ะแหละ)
นักเขียนก็สำคัญเขาออกเขียนหนังสืออกมาเพื่ออะไร? บางครั้งเขาแค่สร้างต้องการสร้าง portfolio
พวกออกมาเล่มเดียวแล้วเทงบสร้างกระแส เพื่อเอา BestSeller ก็มี เสร็จปุ๋บ ก็เอาคำนี้ไปหากินในอาชีพเขาต่อ
หนังสือดีๆแค่เล่มเดียวก็เปลี่ยนชีวิตคนคนนึงได้แล้ว พอคุณเจอหนังสือที่เป็นของแท้ คุณก็จะรู้จักว่าอันไหนของเทียม (เหมือนเจอเพื่อนแท้น่ะแหละ)
คนไทยชอบอะไรเป็นชุดคำสั่ง 1 2 3 4....
หนังสือบางเล่มเขียนโดยชาวต่างชาติ เราต้องเข้าใจวัฒนธรรมของเขา บางอย่างเขาทำได้เพราะกฎหมาย และความเสรีในบ้านเขามันต่างจากเรา
การอ่านที่ดีต้องมีการปรับใช้ และวิเคราะห์ออกมาเป็นแบบของตัวเอง ไม่ใช่ไปลอกเขาทั้งดุ้นแล้วทำในบ้านเราไม่ได้ก็มาวิจารณ์ว่าเขาโกหก ปัญหาคือคนส่วนใหญ่ ไม่เข้าใจหนังสือ How To เพราะติดกับการทำตามคำสั่ง How To ต้อง1234 มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับที่จะมีสูตรสำเร็จอะไรแบบนั้นในเส้นทางความร่ำรวยและความสำเร็จ
การอ่านที่ดีต้องมีการปรับใช้ และวิเคราะห์ออกมาเป็นแบบของตัวเอง ไม่ใช่ไปลอกเขาทั้งดุ้นแล้วทำในบ้านเราไม่ได้ก็มาวิจารณ์ว่าเขาโกหก ปัญหาคือคนส่วนใหญ่ ไม่เข้าใจหนังสือ How To เพราะติดกับการทำตามคำสั่ง How To ต้อง1234 มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับที่จะมีสูตรสำเร็จอะไรแบบนั้นในเส้นทางความร่ำรวยและความสำเร็จ
วิธีคิด 1234 เป็นความคิดของลูกจ้างและผู้ปฏิบัติงาน ต้องสั่งถึงจะทำ ซึ่งหากเราต้องการเป็นผู้นำคนเราต้องหัดเขียน 1234 ให้ตัวเอง เขียนแผนธุรกิจ แผนชีวิตเป็น และมอบหมายให้คนอื่นใช้งานได้
"คนรวยซื้อเวลาจากคนจนสร้างรายได้ให้ตัวเอง คนจนขายเวลาให้คนรวยแลกกับเงินเดือนและความคิดที่ว่ามันมั่นคง"
เพราะฉะนั้น การอ่านและการเรียนรู้ที่ดี เราต้องนำมาใช้ในแบบเราเองได้ ปรับตามสถานการณ์ได้
การเก็บประสบการณ์ จากการเริ่มทำและหัดล้มเหลวบ้าง สมหวังบ้าง เป็นครูชั้นดี ที่จะพาไปพบหนทางแบบของเราเอง
เมื่อนั้นแนวคิดต่างๆจะเกิดจากมุมมอง(ที่ถูกต้อง)ของตัวเอง และคนแบบนั้นจะไม่ตายไปกับทุนนิยม เพราะเขามีเพียงหนึ่งเดียว และโลกต้องการของจริง
การเก็บประสบการณ์ จากการเริ่มทำและหัดล้มเหลวบ้าง สมหวังบ้าง เป็นครูชั้นดี ที่จะพาไปพบหนทางแบบของเราเอง
เมื่อนั้นแนวคิดต่างๆจะเกิดจากมุมมอง(ที่ถูกต้อง)ของตัวเอง และคนแบบนั้นจะไม่ตายไปกับทุนนิยม เพราะเขามีเพียงหนึ่งเดียว และโลกต้องการของจริง
"เมื่อไหร่ค้นหาใจตัวเอง และแนวทางตัวเองพบ เมื่อนั้นเราจะไร้ขีดจำกัด"
"เมื่อไหร่ที่เราพยายามเป็นแบบคนอื่น เราก็เป็นได้เพียงที่สองอยู่วันยังค่ำ
แต่เมื่อใดเราเป็นตัวของตัวเอง เมื่อนั้นเราจะเป็นหนึ่งทันที"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น